
การทานอาหารให้คำนึงถึงประเภทอาหารที่ทาน
ในปัจจุบันมีอาหารหลากหลายประเภทให้เลือก ทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าเราทานอาหารนี้เราจะอ้วนขึ้นมั้ย เพราะในความเป็นจริง เราคงแอบถามตัวเอง เบาๆว่า อาหารนี้จะให้พลังงานที่พอเหมาะพอดีกับความต้องการของร่างกายหรือไม่ เพราะว่าเราไม่สามารถวัดพลังงานที่ได้จากอาหารได้อย่างชัดเจน จึงทำให้เราลังเล สับสนไม่แน่ใจว่า อาหารนี้เหมาะกับเรามั้ย ทานได้มั้ย
ทั้งนี้ เราจะรู้ก็ต่อเมื่อ เราเริ่มมาสำรวจตัวเองว่า เราใช้พลังงานอย่าไรบ้าง เราใช้พลังงานในการคิด ระหว่างการทำงานมากมั้ย เราใช้พลังงานในการออกกำลังกานจนเหนื่อยอ่อนมั้ย เราใช้พลังงานในการเดินทางจากบ้านไปที่ทำงาน หรือที่โรงเรียนมากมั้ย เราออกกำลังกายประเภทอะไร เหงื่อออกมากมั้ย เราเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วไปมั้ย เรามีระบบการทำงานในร่างกายที่เป็นปรกติมั้ย เป็นคนเหงื่อออกง่ายมั้ย หรือมีอาการหนาวที่มือที่เท้าบ่อย ร่างกายย่อยอาหารเร็วหรือช้า ร่างกายเราขับถ่ายถี่มั้ย
โดยเรื่องพวกนี้เราจะเข้าใจก็ต่อเมื่อ เรานำมาพิจารณาให้เห็นเป็นภาพโดยรวม ว่าร่างกายเราต้องการพลังงานมากน้อยเท่าไร จากการคำนวณหาจำนวนแคลลอรี่ที่จำเป็นต่อร่างกาย จากการคำนวณหาจำนวนพลังงานที่ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ในหนึ่งวัน จากการคำนวณหาจำนวนพลังานที่ได้จากอาหารที่ทาน ซึ่งทั้งนี้เราควรจะสนใจเรื่องคุณภาพ และประเภทของอาหารอีกด้วย
หลายคนเข้าใจว่า ถ้าเราใช้พลังงานเยอะเราต้องทานอาหารในปริมาณที่เยอะตามไปด้วย และถ้าเราใช้พลังงานน้อย เราควรทานอาหารน้อยตามไปด้วย เมื่อเราเข้าใจว่าอาหารที่เราทานนั้นจัดอยู่ในประเภทอะไร เราจึงจะสามารถดูแลจัดสรรอาหารที่ทานให้เหมาะกับร่างกายเราได้
ดังนั้นประเภทของอาหาร จึงมีความสำคัญในการเลือกทานอาหาร
Carb – เป็นอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายน้อย แต่ดูดซึมเร็ว ถ้าซื้อแบบที่เป็น ออร์แกนิคและเติบโตแบบธรรมชาติ หรือโตแบบออแกนิค จะมีแร่ธาตุ สารอาหาร กากใย โดยเฉพาะการสีเอง โดยส่วนใหญ่ คาร์โบไฮเดรตจะแบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่ที่เป็นประโยชน์คือประเภทที่เป็น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คืออาหารที่เป็นหัว เช่น เผือก มันเทศ มันสำปะหลัง มันเทศม่วง ฟักทอง ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารที่ร่างกายดูดซึมน้ำตาลจากแป้งกลุ่มนี้ช้า และไม่แหว่งปริมาณน้ำตาลในร่างกาย มากเท่ากับการทานแป้งที่ได้จาก แป้งขาว ข้าวขาว ขนมปัง แป้งโฮลวีท
ทั้งนี้ คาร์โบไฮเดรตที่ได้จากผัก และผลไม้เป็นอีกเรื่องที่จะเก็บไว้พูดในครั้งต่อไป
Fat – เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง เมื่อทานเราจะอิ่มและอยู่ได้นาน ถ้าทานไขมันที่มีประโยชน์ เช่นไขมันจากน้ำมันมะพร้าว โอเมก้-3 จากน้ำมันปลา หรือ ไขมันจากน้ำมันมะกอก น้ำมันอโวคาโด น้ำมันหมู แทนการานน้ำมันพืช น้ำมันรำข้าว ช่วยให้ร่างกายลดความเสี่ยงจากโรคกลอดเลือดอักเสบ
ดังนั้นถ้าเราทานไขมันที่ดีในปริมาณที่พอเหมาะหับความต้องการของร่างกาย เช่น ในตอนเช้าที่รีบเร่ง ไม่มีเวลาทานอาหารมาก – เราสามารถทานไขมันดีเพื่อให้ร่างกาย อิ่มและอยู่ได้นาน ดังที่มักจะเห็นได้จาก กาแฟBullet proof coffee
Protein – เป็นอาหารที่ให้พลังงานปานกลาง แต่มีความสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหร่อในร่างกาย เพิ่มกล้ามเนื้อ เพิ่มแร่ธาตุ และวิตามินที่สำคัญ โดยโปรตีนที่ได้จากอาหารประเภทสัตว์เป็น โปรตีนที่ดูดซึมง่าย ครบถ้วน ไม่เหมือนกับโปรตีนที่ได้จากพืชที่ต้องรวมกับโปรตีนจากพืชหลายชนิด ทั้งนี้ โปรตีนที่ได้จากสัตว์จะมีวิตามิน B12 ซึ่งมีความสำคัญกับร่างกายในการดูดซึมสารอาหาร ในการช่วยไม่ให้ร่างกายเหนื่อยอ่อน ช่วยระบบการทำงานของเซลล์สมอง หากเป็นมังสวิรัติ มักจะเลือกทานไข่แทน หรือทานวิตามิน B12 หรือฉีด B12 เข้าร่างกาย เราควรเลือกเนื้อสัตว์ที่ไร้สารเคมี ไร้ฮอร์โมน ออร์แกนนิค ทานแล้วอยู่ได้นาน – จึงมีการนำผง Protein ไปผสมกับสมูทตี้ ทำให้กินแล้วอยู่ได้นาน
ดังนั้นถ้าเราเลือกที่จะทานอาหารที่มีคุณภาพ และเลือกประเภทอาหารที่ดี เราสามารถที่จะดูแลร่างกายเราได้ว่า ควรทานมากหรือน้อย เพราะว่าอาหารที่มีคุณภาพสูงมักจะมีกากใยอาหารทำให้ทานได้น้อยลง ไม่ต้องทานเยอะก็อิ่มเร็ว แถมยังได้แร่ธาตุ และวิตามินที่สมบูรณ์มากกว่าการทานอาหารในปริมาณเยอะแต่ไม่อิ่ม
ถ้าเราจะทานอาหารให้เหมาะสมกับร่างกาย ด้วยการเลือกทานอาหาร นันท์เห็นว่า เราสามารถเลือกได้ด้วยการเลือกทานอาหารที่เน้นคุณภาพ และรู้จักประเภทอาหารที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย จะทำให้เราดูแลสุขภาพร่างกายปราศจาดโรค และบำรุง ซ่อมแซมร่างกาย
Leave a reply
Leave a reply